การทำนาหว่านน้ำตมหรือหว่านข้าวงอก
เป็นวิธีที่แพร่หลายที่สุดโดยเฉพาะพื้นที่มีระบบชลประทาน เนื่องจากสามารถระบายน้ำเข้าออกเพื่อควบคุมการงอกของเมล็ดข้าวและวัชพืชได้ นาหว่านน้ำตมทำได้ทั้งในฤดูนาปีและนาปรัง แต่ในฤดูนาปีอาจเข้สี่ยงต่อการมีฝนตกมากจนเมล็ดาวถูกฝนชะไหลไปรวมกันอยู่ขอบแปลง หรืออาจระบายน้ำออกไม่ทันทำให้ต้นอ่อนจมน้ำอยู่หลายวันและเน่าก่อนที่จะงอกยอดพ้นระดับน้ำ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวิธีการทำนาหว่านน้ำตมที่เรียกว่า การทำนาหว่านน้ำตมแผนใหม่ ซึ่งใช้หลักการเดียวกับวิธีเดิมแต่เน้นการปรับแปลงให้เรียบสม่ำเสมอ พร้อมทั้งทำร่องระบายน้ำเล็กๆ ภายในแปลงนาเพื่อระบายน้ำที่อาจขังอยู่ในจุดต่ำบางจุดออกก่อนที่จะหว่าน ทำให้เมล็ดข้าวงอกได้สม่ำเสมอ ไม่ถูกน้ำท่วมขังจนเมล็ดเน่าเสีย รายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ในการทำนาหว่านน้ำตมแผนใหม่มีดังข้างล่าง ขั้นตอนเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางปฏิบัติเท่านั้น การปรับเปลี่ยนในรายละเอียดกระทำได้บนพื้นฐานของความอุดมสมบูรณ์ของดิน และปัจจัยการผลิตอื่นๆ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมให้อยู่ในกรอบของขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้ผลผลิตของข้าวไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้
1.หว่านข้าวงอก นำเมล็ดข้าวพันธุ์ดีมีความงอกสูงอัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่ มาแช่น้ำ 1 วัน จากนั้นนำขึ้นจากน้ำมาหุ้ม เพื่อควบคุมความชื้น 2 วัน จนเมล็ดข้าวงอก จึงนำไปหว่านในแปลงที่เตรียมไว้
2.ป้องกันแมลงครั้งที่ 1 ใช้เอส 85 (เซฟวิน)2 ช้อนแกงพูนผสมน้ำ 1 ปีบ คนให้ผสมกับน้ำฉีดในอัตรายา 8 ช้อนผสมน้ำ 4 ปีบต่อไร่ ควรฉีด 7 วันหลังหว่านข้าว
3.สุบน้ำเข้านาประมาณ 10 วันหลังหว่านข้าว เริ่มสูบน้ำเข้าแปลงนาจนเริ่มท่วมปลายใบ ตรวจดูแปลงนาอบ่าให้น้ำไหลซึมออกเพื่อรักษาระดับน้ำ
4.ควบคุมวัชพืชประมาณ 2 วันหลังสูบน้ำเข้านาจนรักษาระดับน้ำได้แล้ว ใช้สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนงอก
5. ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ประมาณ 3 วัน หลังใช้สารกำจัดวัชพืช ใช้ปุ๋ยผสมสูตร 16-20-0 จำนวน 35 กิโลกรัมผสมกับปุ๋ยยูเรีย 5 กิโลกรัม นำไปหว่านในเนื้อที่ 1 ไร่
6.สูบน้ำเข้านา ประมาณ 10 วันหลังหว่านปุ๋ย สูบน้ำเข้านาให้ได้ระดับหนึ่งฝ่ามือ(10 เวนติเมตร) ตรวจดูคันนาอย่าให้น้ำไหลซึมออกเพื่อรักษาระดับน้ำ
7.ป้องกันแมลงครั้งที่ 2 ประมาณ 10 วันหลังหว่านปุ๋ย ใช้อะโซดริน 8 ช้อนแกง(หรือ 80 ซีซี)ผสมน้ำ 4 ปีบ ฉีดในเนื้อที่ 1 ไร่ เมื่อมีการระบาดของแมลง
8.ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ประมาร 50 วันหลังหว่านข้าวงอก โดยใช้ยูเรีย 10 กิโลกรัมต่อไร่
ที่มา หนังสือพืชไร่เศรษฐกิจ ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร กำแพงแสน
วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น